ที่ไม่ว่าจะเมนูส้มตำ ยำ ต้ม แค่เหยาะน้ำปลาร้าลงไปก็เพิ่มความแซ่บนัวให้ได้อีกเท่าตัว เรียกว่าเป็นของคู่ครัวชาวอีสานมาช้านาน และในปัจจุบันจากปลาร้าที่หมักในไหต้มในหม้อกันเองแบบพื้นบ้าน ก็ได้ผันตัวมาลงขวดปิดผนึก ผ่านความร้อนที่เหมาะสมด้วยกรรมวิธีทางอุตหกรรมทำให้กลายเป็นน้ำปลาร้าปรุงสุกสำเร็จรูป ที่ซื้อหาได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วไปกันแล้ว
และหนึ่งในแบรนด์น้ำปลาร้าปรุงสุกที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีก็คือแบรนด์ ZABMIKE (แซ่บไมค์) ซึ่งกำเนิดจากความตั้งใจของนักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนอย่าง ไมค์ ภิรมย์พร ที่มีความตั้งใจอยากยกระดับปลาร้า-อาหารพื้นถิ่นคู่ครัวชาวอีสานให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในระดับสากล จึงใช้เวลากว่า 20 ปีในการพัฒนาสูตรน้ำปลาร้าคุณภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองน้ำปลาร้าที่มั่นใจได้ว่าผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาดปลอดภัย ที่สำคัญคือได้รสชาติแซ่บนัวในสไตล์อีสานแท้ๆ ที่ถูกปากถูกใจคนทุกภาค จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดน้ำปลาร้าได้สำเร็จ แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำปลาร้าสำเร็จรูปแบบนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จนักในการตีตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ใครหลายคนยังคงไม่เปิดใจ
ด้วย pain point จุดนี้เอง ที่ทำให้แซ่บไมค์ตัดสินใจรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น ภายใต้สโลแกน “แซ่บไมค์ แซ่บให้สุดดดดด” โดยดึงอีกหนึ่งนักร้องลูกอีสานอย่าง โจอี้ ภูวศิษฐ์ มาเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ของน้ำปลาร้าปรุงสุกแบรนด์แซ่บไมค์
หากภาพลักษณ์ของแซ่บรุ่นใหญ่อย่าง ไมค์ ภิรมย์พร กับน้ำปลาร้าสูตรส้มตำ คือการเป็นตัวแทนของลูกอีสานแท้ๆ และน้ำปลาร้ารสชาติเข้มข้น แซ่บรุ่นใหม่อย่าง โจอี้ ภูวศิษฐ์ ก็เป็นตัวแทนของคนอีสานที่ประยุกต์ใช้ความเป็นอีสานมาเป็นจุดแข็งของตัวเองจนได้รับการยอมรับในระดับประเทศ เข้ากันได้ดีกับไลน์น้ำปลาร้าสูตรแซ่บทุกเมนู เรียกว่านำเสนอภาพจำใหม่ๆ ของแซ่บไมค์ที่มีความทันสมัยและเข้าถึงง่ายขึ้นได้อย่างชัดเจน
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญของตลาดน้ำปลาร้าปรุงสุก ที่เจ้าใหญ่ของตลาดกล้าฉีกออกจากกรอบเดิมๆ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น
เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะยิ่งช่วยผลักดันเป้าหมายของแซ่บไมค์ที่อยากให้กำลังใจผู้คนผ่านอาหารอร่อย รสชาติแซ่บแบบบ้านเกิด ให้มีพลังกายและกำลังใจสู้ไปในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี
Credit: The Matter